วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ออโรรา(ดาราศาสตร์)

                            

 ออโรรา เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มีแสงเรืองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน โดยมักจะขึ้นในบริเวณแถบขั้วโลก โดยบางครั้งจะเรียกว่า แสงเหนือ หรือ แสงใต้ ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิด
ปรากฏการออโรราเป็นตัวอย่างปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่น่าทึงที่สุดที่เกิดขึ้นในอวกาศที่ใกล้พื้นโลก มันอาจปรากฏจากสิ่งจางๆ เป็นวงนิ่ง แล้วระเบิดออกมาเป็นสีต่าง ๆ พุ่งกระจายภายในเวลาไม่กี่วินาที บางครั้งจะปรากฏเหมือนมันจะแตะกับพื้น หรือในเวลาอื่นอาจเห็นมันพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ความจริงแล้ว แสงออโรรานั้นเกิดขึ้นที่ความสูงจากพื้นโลก (altitudes) ประมาณ 100 ถึง 200 กิโลเมตร บริเวณที่อยู่บริเวณบรรยากาศชั้นบนที่อยู่ใกล้กับอวกาศ

ความหมายของชื่อ
แสงเหนือ ตามประวัตินั้นมีชื่อมากมายหลายชื่อ ชื่อวิทยาศาสตร์ของปรากฏการณ์นี้ คือ ออโรรา บอเรลลีส (Aurora Borealis) ซึ่งเป็นภาษาละติน แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า รุ่งอรุณสีแดงแห่งทิศเหนือ ซึ่งตั้งชื่อโดย กาลิเลโอ กาลิเลอิ (Galileo Galilei) (ค.ศ. 1564 – 1642)
คำว่า "Aurora Borealis" แปลว่า "แสงเหนือ" (Northern Light) ส่วน "Aurora Australis" แปลว่า "แสงใต้" (Southern Light) และคำว่า "Aurora Polaris" แปลว่า "แสงขั้วโลก" ใช้เรียกทั้งแสงเหนือและแสงใต้

สถานที่และโอกาสการเกิดออโรรา
ในเขตที่มีการปรากฏของออโรรา สามารถสังเกตออโรราได้ทุกคืนที่ฟ้าโล่งในฤดูหนาว โดยมีข้อสังเกตดังนี้
  • ออโรราจะปรากฏบ่อยครั้ง ตั้งแต่เวลา 22.00 น ถึง เที่ยงคืน
  • ออโรราจะสว่างจ้าในช่วง 27 วันที่ดวงอาทิตย์หันด้านแอคทีฟ (Active Area) มายังโลก
  • ช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงจนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ ในเดือนตุลาคม กุมภาพันธ์ และ มีนาคม เป็นเดือนที่เหมาะสำหรับการชมออโรราทางซีกโลกเหนือ
  • ออโรรามีความสัมพันธ์กับจุดสุริยะ (Sun Spot) บนดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นวัฎจักรประมาณ 11 ปี แต่ดูเหมือนว่า จะมีการล่าช้าไป 1 ปีสำหรับการเกิดจุดดับมากที่สุดกับการเกิดออโรรามากที่สุด
ตารางที่ 1 แสดงความถี่ในการปรากฏออโรราในสถานที่ต่างๆทั่วโลก
  • ออโรราจะปรากฏลดลง 20-30% กว่าตอนที่เกิดจุดสุริยะมากที่สุด เมื่อเกิดจุดสุริยะบนดวงอาทิตย์น้อยที่สุด
ออโรราจะปรากฏในแถบประเทศเมดิเตอเรเนียนเมื่อเกิดจุดสุริยะหรือมีลมสุริยะมากๆ อาจถึง 10 ปีต่อครั้ง โดยเฉลี่ยแล้วเกิด 100 ปีต่อครั้ง

สถานที่ปรากฏออโรรา
บริเวณที่เกิดออโรราเป็นบริเวณรูปไข่ (Oval-shape region) รอบๆ ขั้วแม่เหล็กของโลก โดยรูปไข่จะเบ้ไปทางด้านกลางคืนของโลก เมื่อออโรราสงบ รูปไข่จะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3000 กิโลเมตร แต่เมื่อเกิดออโรรารุนแรงขึ้น รูปไข่จะกว้างขึ้นกว่า 4000 หรือ 5000 กิโลเมตร เนื่องจากขั้วแม่เหล็กเหนือของโลกอยู่ทางตอนเหนือของแคนาดา ออโรรา โบเรลลีส (Aurora Borealis) จึงพบมากที่เส้นรุ้ง (Latitude) ที่มีประชากรอาศัยมากในซีกโลก (hemisphere) ตะวันตก ส่วนออโรราออลเตรลีส (Aurora Australis) สามารถมองเห็นได้จากเกาะทัชมาเนีย (Tasmania) และทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์

เสียงของออโรรา
มีข้อโต้เถียงกันมานานเกี่ยวกับเสียงของออโรราว่ามันสามารถได้ยินโดยผู้สำรวจบนพื้นโลกหรือไม่ คลื่นเสียงนั้นมีความถี่ประมาณ 340 เมตรต่อวินาทีในอากาศบนระดับพื้นโลก แต่ที่ความสูง 80 ถึง 500 กิโลเมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่ออโรราปรากฏนั้นอยู่ใกล้สุญญากาศมาก ทำให้เป็นเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเสียงขึ้น กระนั้น ก็มีรายงานมากมายว่าได้ยินเสียงระหว่างเกิดออโรรา เสียงที่ได้ฟังนั้น ไม่ใช่เป็นเสียงที่บันทึกจากออโรราโดยตรง แต่เป็นเสียงที่บันทึกจาก แมกนีโตมิเตอร์ (Magnetometer) เสียงที่เปลี่ยนไปคือการเปลี่ยนไปของสนามแม่เหล็กซึ่งเกิดจากอนุภาคสุริยะ (Solar Particles)

แหล่งที่มาและระดับพลังงานของอนุภาค
ออโรราที่ปรากฏนั้นเกิดจากอนุภาคมีพลังงานเคลื่อนที่ตามเส้นสนามแม่เหล็กมาจากเมกนีโตเทล (Magnetotail) มาสู่บรรยากาศชั้นบน อนุภาคส่วนใหญ่คืออิเล็กตรอน แต่โปรตอนและไอออนอื่น ก็อาจพบได้ เมื่ออนุภาคมีประจุ (Charged Particles) พุ่งมาจาก แมกนีโทสเฟียร์ (Magnetosphere) มาสู่บรรยากาศชั้นบน จะเกิดการชนกับแก๊สที่ไม่มีความสำคัญอะไรที่นั่น
อนุภาคออโรราเป็นเพียงหนึ่งในหลายอนุภาคมีประจุที่กระหน่ำมายังโลก รวมถึงอนุภาคที่มีพลังงานฟลักซ์มหาศาลในช่วง พันล้านอิเล็กตรอนโวลต์ (GeV) หรือล้านอิเล็กตรอนโวลต์ (MeV) อย่างเช่น รังสีคอสมิค (Cosmic Rays) อนุภาคจากแถบกัมมันตรังสี (Radiation Belt) พลังงานสูง และอนุภาคสุริยะ (Solar Energetic Particles) ส่วนอนุภาคออโรรานั้นเกิดขึ้นในแผ่นพลาสมาแม่เหล็ก (Magnetospheric Plasma Sheet) และมีพลังงานอยู่ในช่วง 1 ถึง 10 พันอิเล็กตรอนโวลต์ (keV) แต่บางทีอาจมีพลังงานมากถึง 100 พันอิเล็กตรอนโวลต์ (keV) และอนุภาคพลังงานต่ำ เช่น ลมสุริยะที่เข้าสู่แมกนีโตสเฟียร์ทาง ซีกโลกกลางวัน (Dayside Cusp ) ใกล้กับขั้วแม่เหล็กโลก เป็นต้น ความลึกที่อนุภาคเหล่านี้จะเจาะเข้าไปในชั้นบรรยากาศ ขึ้นอยู่กับพลังงานของมัน ยิ่งพลังงานมากยิ่งเข้าได้ลึก รังสีคอสมิค สามารถเดินทางไปถึงชั้นบรรยากาศโทรโพสเฟียร์ (Troposphere) หรืออาจลึกไปถึงพื้นโลก อนุภาคจากแถบกัมมันตรังสีและอนุภาคสุริยะพลังงานสูง เข้ามาได้ถึงชั้นสตราโตสเฟียร์ (Stratosphere) และชั้นมีโซสเฟียร์ (Mesosphere) ส่วนออโรรานั้นมาได้แค่ชั้นเทอร์โมสเฟียร์ (Thermosphere) ซึ่งสูงประมาณ 100 กิโลเมตร นั่นทำให้ออโรราเกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศนี้

สีของออโรรา
ดวงอาทิตย์ปล่อยแสงทุกสีที่มองเห็นได้ออกมาก ทำให้เราเห็นแสงอาทิตย์เป็นสีขาว ส่วนสเปคตรัมของออโรรา ก่อนจะศึกษารายละเอียด เราต้องรู้เรื่อง สาเหตุการเกิดแสงก่อน
ในบรรยากาศประกอบด้วยไนโตรเจน และ ออกซิเจน เป็นหลัก อนุภาคของแก๊สเหล่านี้จะปลดปล่อยโฟตอนซึ่งมีความยาวคลื่นคงที่ เมื่ออนุภาคมีประจุไฟฟ้า กระตุ้นแก๊สในบรรยากาศ อิเล็กตรอนจะเริ่มเคลื่อนที่รูปนิวเคลียสในวงโคจรที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะมีพลังงานเหลือเฟือ อนุภาคที่ถูกกระตุ้นจะไม่เสถียรและจะปลดปล่อย พลังงานออกมาในรูปของแสง เรียกว่าแสงนี้ว่า ออโรรา

แสงสีเขียวเข้ม เกิดที่ความสูง (Altitudes) ที่ 120 ถึง 180 กิโลเมตร แสงเหนือสีแดงปรากฏที่ความสูงที่สูงกว่า ส่วนสีฟ้า และม่วงปรากฏที่ความสูงต่ำกว่า 120 กิโลเมตร เมื่อเกิดพายุสุริยะ 000 แสงสีแดงจะปรากฏที่ความสูงตั้งแต่ 90 ถึง 100 กิโลเมตร
เมื่อออโรราจางลง มันจะปรากฏเป็นสีขาวเมื่อมองด้วยตาเปล่า เมื่อมันสว่างขึ้น สีจึงมองเห็นขึ้นมา และสีเขียวซีดที่เป็นเอกลักษณ์ของมันจะมองเห็นขึ้นมา
เมื่อมีความหนาแน่นมากขึ้น ในบริเวณที่ต่ำลงมาจะมองเห็นเป็นสีเขียวสด และ สีแดงจางๆ จะมองเห็นที่ความสูงมากๆ
เหนือชั้นบรรยากาศขึ้นไป 100 กิโลเมตร ประกอบด้วยโมเลกุลไนโตรเจนและออกซิเจนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่ง ไนโตเจนจะมีมากที่ความสูง 10 กิโลเมตร และออกซิเจน มีมากที่ 200 กิโลเมตร เส้นกราฟสีเขียวแสดงความหนาแน่นของก๊าซออกซิเจนและสีม่วงแสดงความหนาแน่นของก๊าซไนโตรเจน ณ ความสูงต่าง ๆ ในชั้นบรรยากาศเทอโมสเฟียร์ เมื่ออะตอมออกซิเจนถูกกระตุ้น มันจะปล่อยแสงมากมายหลายสีออกมาก แต่สีที่ที่ส ว่างที่สุดคือที่แดงและสีเขียว

ออโรรากับวิถีชีวิต
การศึกษาพายุสุริยะในเวลาต่อมาได้ทำให้นักวิทยาศาสตร์รู้ว่า พายุนี้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง เพราะเมื่อเรารู้ว่า เปลวก๊าซร้อนที่พุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์นั้น นำอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าออกมากมายด้วย ดังนั้น เมื่ออนุภาคเหล่านี้พุ่งถึงชั้นบรรยากาศ เบื้องบนของโลก ถ้าขณะนั้นมีนักบินอวกาศ ร่างกายของนักบินอวกาศคนนั้นก็จะได้รับอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าและรังสีต่างๆ มากเกินปกติ ซึ่งจะทำให้ร่างกายเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ พายุอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าอาจพุ่งชนดาวเทียมที่กำลังโคจรอยู่รอบโลกจนทำให้ดาวเทียมหลุดกระเด็นออกจากวงโคจรได้ และถ้าอนุภาคเหล่านี้พุ่งชนสายไฟฟ้าบนโลก ไฟฟ้าในเมืองทั้งเมืองก็อาจจะดับ ดังเช่นเหตุการณ์ไฟฟ้าดับที่เมืองควิเบก ในประเทศแคนาดาเป็นเวลานาน 9 ชั่วโมง เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2532 เพราะโลกถูกพายุสุริยะจากดวงอาทิตย์พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง
ความจริงเหตุการณ์ครั้งนั้นได้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 11 ปีมาแล้ว แต่เมื่อนักวิทยาศาสตร์รู้อีกว่า ทุกๆ 11 ปีจะเกิดเหตุการณ์พายุสุริยะ ที่รุนแรงบนดวงอาทิตย์อีก ดังนั้นปี พ.ศ. 2543 จึงเป็นปีที่นักวิทยาศาสตร์คาดหวังจะเห็นโลกถูกดวงอาทิตย์คุกคามอย่างหนักอีก ครั้งหนึ่ง และเมื่อขณะนี้โลกมีดาวเทียมที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ประมาณ 800 ดวงและสหรัฐอเมริกาเองก็มีโครงการจะส่งนักบินอวกาศ ขึ้นไปสร้างสถานีอวกาศนานาชาติในปีนั้นอีกเช่นกัน บุคลากรและดาวเทียมเหล่านี้จึงมีโอกาสถูกพายุสุริยะจากดวงอาทิตย์พัดกระหน่ำ จนเป็นอันตรายได้ ก็ในเมื่อเวลาพายุไต้ฝุ่นหรือทอร์นาโดจะพัด เรามีสัญญาณเตือนภัยห้ามเรือเดินทะเลและให้ทุกคนหลบลงไปอยู่ห้อง ใต้ดิน จนกระทั่งพายุพัดผ่านไป การเตือนภัยพายุสุริยะก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน เพราะถ้าเรารู้ว่าพายุสุริยะกำลังจะมาถึงโลก โรงไฟฟ้า ก็ต้องลดการผลิตกระแสไฟฟ้า คือไม่ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกจากเครื่องเต็มกำลังเพราะถ้าไฟฟ้าเกิดช็อต ภัยเสียหายก็จะไม่มาก ดังนั้น การแก้ไขล่วงหน้าก็จะสามารถทำให้ความหายนะลดน้อยลง แต่ความสามารถของผู้เชี่ยวชาญสภาวะของอวกาศ วันนี้ก็ดีพอๆ ความสามารถของนักอุตุนิยมวิทยาที่สามารถทำนายสภาพของอากาศ บนโลก เมื่อ 40 ปีมาแล้ว ดังนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ จึงได้จัดตั้งศูนย์สภาวะแวดล้อมของอวกาศ (Space Environment Center) ขึ้นมา โดยให้นักวิทยาศาสตร์มีหน้าที่ทำนายสภาพของอวกาศล่วงหน้า และผลงานการพยากรณ์เท่าที่ผ่านมาได้ทำให้เรารู้ว่า คำพยากรณ์นี้มี เปอร์เซ็นต์ถูกถึง 90% ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดในหนึ่งชั่วโมง แต่เปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดก็จะสูง ถ้าเป็นกรณีการทำนายล่วงหน้า หลายวัน
เพื่อให้คำทำพยากรณ์ต่างๆ มีเปอร์เซ็นต์ความถูกต้องมากขึ้น องค์การนาซาของสหรัฐฯ จึงได้วางแผนส่งดาวเทียมดวงใหม่ขึ้น อวกาศเพื่อสำรวจสถานภาพของพายุสุริยะทุกลูกที่จะพัดจากดวงอาทิตย์สู่โลกในอีก 11 ปี ข้างหน้านี้
ความรู้ปัจจุบันที่เรามีอยู่ขณะนี้คือ ผลกระทบของพายุสุริยะจะรุนแรงอย่างไร และเช่นไร ขึ้นกับ 3 เหตุการณ์ต่อไปนี้ คือ
  • เหตุการณ์แรกเกี่ยวข้องกับจุดดับบนดวงอาทิตย์ (Sunspot) ซึ่งเป็นบริเวณผิวดวงอาทิตย์ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าบริเวณส่วนอื่น และเป็น บริเวณที่สนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์สามารถทะลุออกจากดวงอาทิตย์ออกมาสู่อวกาศภายนอกได้ ดังนั้น เมื่อเกิดการระเบิดที่ผิวดวงอาทิตย์ในบริเวณนี้ กระแสอนุภาคจะถูกผลักดันออกมาตามแนวเส้นแรงแม่เหล็กนี้มาสู่โลก และเมื่อกระแสอนุภาคจากจุดดับพุ่งชนบรรยากาศเบื้องบนของโลก มันจะปะทะอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่อยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก (Ionosphere) การชนกันเช่นนี้จะทำให้เกิดกระแสประจุซึ่งมีอิทธิพลมากมายต่อการสื่อสารทางวิทยุ
  • เหตุการณ์สองที่มีอิทธิพลทำให้สภาวะของอวกาศระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ปรวนแปร ในกรณีมีพายุสุริยะที่รุนแรงคือ ชั้นบรรยากาศ ของโลกอาจจะได้รับรังสีเอกซ์มากกว่าปกติถึง 1,000 เท่า รังสีเอกซ์นี้ จะทำให้อิเล็กตรอนที่กำลังโคจรอยู่รอบอะตอม กระเด็นหลุดออก จากอะตอม และถ้าอิเล็กตรอนเหล่านี้ชนยานอวกาศ ยานอวกาศก็จะมีความต่างศักย์ไฟฟ้าสูง ซึ่งจะทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในยานเสีย และนั่นก็หมายถึงจุดจบของนักบินอวกาศ
  • ส่วนเหตุการณ์สาม ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มก๊าซร้อนหลุดลอยมาถึงโลก และเมื่อมันพุ่งมาถึงโลก สนามแม่เหล็กในก๊าซร้อนนั้นจะบิดเบนสนามแม่เหล็กโลก ทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลในชั้นบรรยากาศของโลกอย่างมากมาย กระแสไฟฟ้านี้ จะทำให้ชั้นบรรยากาศของโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น มันจึงขยายตัว ทำให้ยานอวกาศที่เคยโคจรอยู่เหนือบรรยากาศ ต้องเผชิญแรงต้านของอากาศ ซึ่งจะมีผลทำให้ยานมีความเร็วลดลงแล้วตกลงสู่วงโคจรระดับต่ำ และตกลงโลกเร็วกว่ากำหนด

 

วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Chen Exo-m

                                                       
                                                    
ชื่อ : คิมจงแด (Kim Jongdae)
ชื่อในวงการ : เฉิน
ตำแหน่ง : นักร้องเสียงหลัก
พลังพิเศษ : สายฟ้า (แมงป่อง)
ระยะเวลาในการฝึก : 11 เดือน
รูมเมท : ที่เกาหลี เลย์ ที่จีน คริส
ส่วนสูง : 177 cm
น้ำหนัก : 64 kg
สัญชาติ : เกาหลี
บ้านเกิด :
วันเกิด : 21 กันยายน 1992
กรุ๊ปเลือด : B
ความสามารถพิเศษ ร้องเพลง, เปียโน
การศึกษา :
ผลงานที่ผ่านมา :
- ได้ถูกแนะนำอย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกในวันที่ 29 ธันวาคม 2011
- 2011 SBS Gayo Daejeon (SM Orchestra)
About Chen : หนุ่มเรียบร้อยคยนี้มีพลังเสียงอลังการจนน่าทึ่ง เสียงของเขาเป็นเสียงที่ทุกคนอิจฉา ความสามารถด้านเสียงของเขาไม่เคยล้มเหลวในการสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คน โดยเฉพาะความสามารถในการโหนเสียงยาวๆ ในการเรียนภาษาจีนที่เป็นภาษาต่างประเทศ หลายครั้งที่เขาจะนั่งเงียบๆ และฟังในสิ่งที่คนพูดและเรียนรู้จากพวกเค้า มีสิ่งหนึ่งในตัวเฉินที่จะคงอยู่ตลอดไป คือรอยยิ้มที่จริงใจและมีเสน่ห์ของเขา

                                                                   CHEN ::: เฉิน exo-m :

                                                                                               
              

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

เรื่องจริง 70 เรื่อง ทีฟังดูแปลก แต่จริง


1. มดเป็นสัตว์โลกชนิดเดียว ที่ไม่หลับ นอน หรือหยุดการเคลื่อนไหว

2. ที่อิสราเอล การพูดคุยโทรศัพท์มือถือในรถ มีความผิดถึงขั้นเป็นคดีอาญา

3. ชาวอเมริกันกินเนื้อหมูตลอดอายุไขตัวเอง รวมแล้วเท่ากับหมู 28 ตัว

4. สถิติการปล้นธนาคารพบว่าส่วนใหญ่โจรจะลงมือวันศุกร์

5. สัตว์ในตระกูลกิ่งก่า(ไม่รวมจิ้งจก) มีชนิดเดียวเท่านั้นที่ส่งเสียงร้องได้นั้นคือตุ๊กแก

6. เมื่อยานอพพอลโล ทะยานสู่นอกโลก สิ่งแรกที่มนุษย์อวกาศลงมือปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนคือ มันมีแมลงสาปเข้ามาในยาน 1 ตัว

7.สัตว์กินเนื้อทุกชนิดในโลกจะไม่กินเนื้อสัตว์ที่ตายเพราะฟ้าผ่า แม้แต่อีแร้ง

8. ระเบิดลูกแรกที่ฝ่ายทหารสัมพันธมิตร ในสงครามโลกครั้งที่ 2 หย่อนลงในเบอร์ลิน เยอรมันนี ปรากฏว่ามันหล่นในสวนสัตว์ส่งผลให้ช้างตายไป 1 เชือก

9. นักบินอวกาศที่กำลังไปท่องอวกาศจะมีกฎไว้ว่าห้ามกินถั่วเป็นก่อนหน้าเดินทาง 3 วัน เพราะอาจผายลมในขณะอยู่ชุดอวกาศได้

10. ชื่อเพลงที่ยาวที่สุดในโลกแต่งขึ้นเมื่อปี 1943 โดยฮอกี้ คาร์มิเคิล ชื่อเพลง " I'm a Cranky Old Yank in a Clanky Old Tank on the Streets of Yokohamaa with my Honolulu MaMa Doin' Those Beat-o,Beat-o Flat-on-My-Seaat-o,Hirohito Blues"

11.คุณจะถูกยุงตอมเมื่อคุณกินกล้วยเมื่ออกมาอยู่กลางแจ้ง

12. บีโธเฟน นักแต่งเพลงก้องโลก ก่อนตายเขากล่าวคำสุดท้ายว่า "เพื่อนๆ ทั้งหลายจงปรบมือเถิด..........ละคร...ตลกกำลังจบลงแล้ว"

13.ทุกๆ ช่วงสี่ปี โธมัส เอดิสัน จะจดทะเบียนสิ่งประดิษฐ์ขึ้น โดยใช้เวลาร่างสิ่งประดิษฐ์นั้นแค่ 5 วัน

14. คำว่าแคนาดา เป็นคำภาษาอินดียแดงแปลว่า "หมู่บ้านใหญ่"

15. ประเทศไทยมีสถิตผู้สูบบุหรีน้อยที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

16. แต่ประเทศไทยติดอันดับคนเสพยาบ้ามากที่สุดติดอันดับต้นๆ ของโลกแทน

17. จิม มอริสสัน (ใครฟ่ะ) นักร้องเพลงร็อกชื่อดังปี 60 เขาเป็นนักร้องคนแรกที่โดนตำรวจจับบนเวที เพราะขณะร้องเพลง ซิปดันไม่รูด

18. การประหารชีวิตนักโทษด้วยเครื่องกิโยตินครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นที่เมืองแว ร์ซายส์ 17 มิถุนายน 1939 มีผู้ร่วมงานจำนวนมากพร้อมในอาหารตั้งโต๊ะไปกินแบบดินเนอร์ด้วย

19. สถิติสิงห์อมควันมากที่สุดในโลกไม่ใช้จีนแต่เป็นประเทศแถบกรีนแลนด์

1.ยุงบินด้วยความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมง...

2.ผีเสื้อบินด้วยความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมง...

3.เส้นผมคน รับน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัม...

4.เสียงกรนที่ดังที่สุดดังถึง 87.5 เดซิเบลล์

5.พอล แมคคาร์ที เป็นเจ้าของลิขสิทธิเพลงแฮปเบิร์ดเดย์ ถ้าจะนำมาออกรายการ ต้องซื้อลิขสิทธิก่อน...

6.เหรียญทองโอลิมปิกต้องมีแร่เงินผสมอยู่ 92.5 เปอร์เซนต์...

7.หอเอนเมืองปิซาเอนไปทางใต้...

8.กษัตริย์หลุยส์ที่ 14 อาบน้ำทั้งหมด 3 ครั้งในชีวิต...

9.ฮิตเลอร์แสกผมข้างซ้าย...

10.ผู้หญิงที่เกาะฮาวายที่ทัดดอกไม้ที่หูข้างซ้าย แสดงว่ามีเจ้าของแล้ว...

11.เราไม่สามารถฆ่าตัวตายด้วยการกลั้นหายใจได้...

12.ผู้หญิง 3.9 เปอร์เซนต์ไม่ชอบใส่กางเกงใน...

13.ฮิปโปผายลมทางปาก...

14.ประเทศซาอุดิอราเบียไม่มีแม่น้ำ...

15.กังหันทั้งโลกหมุนทวนเข็มนาฬิกา ยกเว้นที่ไอร์แลนด์...

16.เด็กนักเรียนอายุ15 ปีขึ้นไปในบังคลาเทศจะถูกจับเข้าคุกถ้า"โกงข้อสอบ"...

17.ปลาที่อาศัยในน้ำลึกเกิน 800 เมตร จะไม่มีตา...

18.ผมคนเราจะร่วงประมาณ 200 เส้นต่อวัน...

19.ตัว"โอ"เป็นสระที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ...

20.คนพูดประมาณ 120 คำต่อนาที

21.ฝ่ามือและฝ่าเท้าของคนเราไม่สามารถไหม้ได้...

22.เม่นชอบช่วยตัวเอง...

23.ถ้าปลาไหลไฟฟ้าอยู่ในน้ำเค็ม จะถูกช็อตตาย...

24.ขั้นบันไดในไทยจะเป็นเลขคี่...

25.เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ชอบสะสมฝาโถส้วม...

26.คนมีโอกาสตายจากผึ้งต่อยมากกว่างูกัด...

27.ประเทศวาติกันมีประชากรประมาณ 1000 คน

28.เมื่อคุณจาม หัวใจคุณจะหยุดเต้นเสี้ยววินาที

29.มันเป็นไปมะได้อ่ะคับ ถ้าคุณจะจามโดยไม่หลับตา

30.เดิมโคคาโคล่าเป็นสีเขียว

31.ชื่อที่โหลที่สุดในโลกคือ Mohammed

32.กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายคือลิ้น

33.แต่ละโพหลังไพ่ แสดงถึงกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่จากประวัติศาสตร์
โพดำ กษัตริย์เดวิด ดอกจิก อเล็กซานเดอร์มหาราช
โพหัวใจ ชาร์ล เลอ มาญ ข้าวหลามตัด จูเลียส ซีซาร์

34. อนุสาวรีย์ของใครสักคนที่อยู่บนหลังม้า และม้ายกสองขาขึ้นบนอากาศแปลว่าคนนั้นตายในสงคราม

35.ถ้าม้ายกขาข้าเดียวแปลว่า เขาบาดเจ็บในสงคราม และตายจากการบาดเจ็บนั้น

36.ถ้าทั้งสี่ขาของม้าอยู่บนพื้น แสดงว่าตายโดยธรรมชาติ

37.ใน 4000 ปีที่ผ่านมา ไม่มีสัตว์ชนิดใหม่ๆ ที่ถูกทำให้เชื่อง

38.เชคสเปียร์ เป็นคนคิดค้นคำว่า assassination (การลอบฆ่า) และ bump (ชนกระทบ)

39.หัวใจมนุษย์สร้างความดันเพียงพอที่จะปั๊มเลือดออกจากร่างกายไป 30 ฟุต

40. หนูสามารถสืบพันธุ์ได้เร็วมาก ใน 18 เดือน หนูสองตัวจะสามารถมีทายาทมากกว่าล้านตัว

41.การใส่หูฟังแค่ชั่วโมงเดียว ทำให้แบคทีเรียในหูเพิ่มขึ้น 700 เท่าตัว

42.ลิปสติกส่วนใหญ่มีส่วนประกอบของเกล็ดปลา

43.เหมือนกับลายนิ้วมือ....ลายลิ้นทุกคนต่างกัน

44.นิตยสาร time ได้ยกย่องให้คอมพิวเตอร์เป็นบุคคลแห่งปีในปีค.ศ.1982

45.สถิติจูบนานที่สุดในโลกเป็นของหลุยซา แอลเมโดวาร์ วัย 19 ปีกับแฟนหนุ่ม ริช แลงเลย์ วัย 22 ปีพวกเขาทำสถิติไว้ที่ 30.59.27 ชม.

46.ตอนที่ f4 ไปเปิดคอนเสิร์ตที่อินโดนีเซียทำให้เด็กนักเรียนเกือบ100 คน

ต้องเรียนซ้ำชั้น เพราะไม่ได้ไปลงทะเบียนเรียนเทอม 2

47.บริษัทผู้ผลิตยาสีฟันดาร์ลี่เป็นเจ้าของเดียวกันกับที่ผลิตยาสีฟันคอลเกต

48.โดนัลด์ ดักส์ ถูกแบนในประเทศฟินแลนด์ เพราะมันไม่ได้สวมกางเกงใน

49.ภาพยนต์เรื่อง nothing hill จ่ายค่าตัวจูเลีย โรเบิร์ต 15 ล้านเหรียญ ( 660 ล้านบาท )

ในขณะที่พระเอกอย่างฮิว แกรนจ์รับค่าตัวเพียง 1 ล้านเหรียญ ( 45 ล้าน บาท)

50.หนังอนิเมชันเรื่อง SouthPark ได้รับการบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์บุ๊คว่า เป็นหนังอนิเมชั่น เรื่องยาวที่หยาบคายที่สุดในโลกสถิติบันทึกไว้ว่า มีการใช้คำหยาบ 399 คำ พฤติกรรมรุนแรง 221 ครั้ง และแสดงท่าทางหยาบคาย 128 ครั้ง

51.ขนมทอดกรอบตรา ปูไทย ระบุว่าไม่มีส่วนผสมของเนื้อปู

52.ในน้ำทะเล 100 ตัน จะมีทองคำอยู่ประมาณ 4 กรัม

53.จำนวนแถวของข้าวโพดในแต่ละฝักจะเป็นเลขคู่

54.จิงโจ้เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวที่เดินถอยหลังไม่ได้

57.ยุงชอบเลือดเด็กมากกว่าเลือดผู้ใหญ่

58.แมงมุมทอดรสชาติเหมือนถั่ว

59.ฟันของแมลงสาบอยู่ในท้อง

60.เม่นทุกตัวลอยน้ำได้

61.หมู มีโอกาสเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง

62.นอกจากมนุษย์แล้ว หมีขั้วโลกและจิงโจ้ต่างก็จูบเป็น ส่วนลิงชิมแปนซีนั้นจูบแบบ "เฟรนช์คิส" ได้ด้วย

63.คนถนัดขวามีอายุเฉลี่ยยืนยาวกว่าคนถนัดซ้ายถึง 9 ปี

64.Hippopotomonstrsesquippedaliophobia คือ ชื่ออาการของคนที่หวาดกลัวคำอ่านยาวๆ

65.ผู้ที่เกิดเดือนมกราคม - มีนาคม มีแนวโน้มเป็นโรคจิตและโรคคลั่งมากกว่าเดือนอื่นๆ

66.แก้วไม่ได้เป็นของเเข็ง เเต่เป็นของเหลว

67.สมองคนเราหนักประมาณ 3% ของน้ำหนักของร่างกาย แต่ใช้เลือดไปเลี้ยงถึง 15% ของเลือดทั้งหมด

68.เลือดของกุ้งมังกรเปนสีน้ำเงิน

69.อูฐสามารถหมุนหัว 180 องศา

70.รู้หรือเปล่าว่าเว็บ google ไม่ได้มีประโยชน์แค่หาข้อมูล แต่เป็นเครื่องคิดเลขได้

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

อินาสึมะอีเลฟเวน



อินาสึมะอีเลฟเวน


อินาสึมะอีเลฟเวน (ญี่ปุ่นイナズマイレブン Inazuma Irebun - ทับศัพท์คำว่า Inazuma Eleven ?) เป็นวิดีโอเกมแนวอาร์พีจีผสมแนวกีฬาผลิตโดยบริษัท เลเวลไฟฟ์ ออกจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551 โดยถูกผลิตสำหรับเครื่องนินเทนโด ดีเอส นอกจากนี้ยังถูกสร้างเป็นหนังสือการ์ตูนและภาพยนตร์อะนิเมะอีกด้วย


รูปแบบการเล่น


โหมดเนื้อเรื่อง

ในเกมนี้ตัวละครหลักในเกมคือเอนโด มาโมรุ โดยดำเนินเนื้อหาในรูปแบบตามเนื้อหาของแต่ละบทที่ได้เล่นนอกจากนี้ยังสามารถตามหานักเตะของแต่ละทีมได้มากถึง 1000 คน

เกมอาเขต

อินาสึมะอีเลฟเวน บาคุเนสึซอกเกอร์แบทเทิล (イナズマイレブン 爆熱サッカーバトル) เป็นเกมอาเขตผสมการ์ดเกมผลิตโดยบริษัทแอตลัสเปิดบริการเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2010

การตอบรับ

นิตยสาร ฟามิตสึ ระบุว่าเกม อินาสึมะอีเลฟเวน เป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในญี่ปุ่นโดยเกมนี้สามารถทำยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับสามในสัปดาห์แรกของการวางแผงด้วยยอดจำหน่าย 41,000 ชุด เกมนี้ยังทำยอดจำหน่าย 29,000 ชุดในสัปดาห์ที่สอง และ 14,000 ชุด ในสัปดาห์ที่สามด้วยเช่นกันเป็นผลทำให้อินาสึมะอีเลฟเวนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากที่สุดทำให้มีภาพยนตร์อะนิเมะและผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆรวมถึงเกมภาคต่อไปอีกด้วย
ผู้แต่งเพลงยาสึโนริ มิตสึดะ

เนื้อเรื่อง

หลังจากการแข่งขันฟุตบอลฟรอนเทียร์ อินเตอร์เนชันแนลสิ้นสุดลงทีมอินาสึมะเจแปนเป็นผู้ชนะเลิศจากการแข่งขัน ทำให้กีฬาฟุตบอลกลายเป็นกีฬาที่นิยมมากที่สุดทั้งประเทศ จนเวลาผ่านไป 10 ปี มัทสึคาเซะ เทนมะ เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลได้เข้ามาเป็นนักเรียนใหม่ของไรมงได้เข้ามาและได้เข้าร่วมชมรมฟุตบอลตามความฝัน แต่แล้วมีกลุ่มองค์กรที่ใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องมือในการควบคุมที่มีชื่อว่า ฟิฟต์เซ็กเตอร์ โดยสึรุกิ เคียวสุเกะซี้ดของฟิฟต์เซ็กเตอร์พร้อมกับสมาชิกคุโระโนะคิชิดันได้ปรากฏตัวและทำร้ายสมาชิกโรงเรียนไรมง ทำให้สมาชิกชมรมฟุตบอลไรมงที่มีสมาชิกจำนวนมากกลับลดลงเนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลต่อฟิฟต์เซ็กเตอร์ที่กำลังควบคุมชมรมฟุตบอลไรมง เทนมะและสมาชิกทีมไรมงรุ่นใหม่ต้องต่อกรกับองค์กรที่ใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องมือพร้อมใช้ความรักฟุตบอลอย่างแท้จริงต่อกรกับฟิฟต์เช็กเตอร์โดยเข้าร่วมแข่งขันโฮลี่โรดเพื่อปฏิวัติวงการกีฬาฟุตบอล


ทีวีซีรีส์

เพลงโอเพนนิ่ง
อินาสึมะอีเลฟเวน GO
  • "Ten Made Todoke!" (ญี่ปุ่น天までとどけっ!  เทนมาเดะโทโดเคะ! ?) (ตอนที่ 1 - 18)
ร้องโดย T-Pistonz+KMC
  • "Naseba naru no-sa nana-iro tamago" (ญี่ปุ่น成せば成るのさ 七色卵 นาเซบะนารุโนะซะ นานะอิโระทามาโกะ ?) (ตอนที่ 19 - 34)
ร้องโดย T-Pistonz+KMC
  • "Ohayo! Shining Day" (ญี่ปุ่นおはよう!シャイニング・デイ โอฮาโยะ! ไชน์นิ่ง เดย์ ?) (ตอนที่ 35 - 45)
ร้องโดย T-Pistonz+KMC
  • "Uchikudark!" (ญี่ปุ่น打ち砕ーくっ! อุจิคุดาร์ค! ?) (ตอนที่ 46 และ 47)
ร้องโดย T-Pistonz+KMC
อินาสึมะอีเลฟเวน GO โครโน สโตน
  • "Jonetsu de Muneatsu!" (ญี่ปุ่น情熱で胸アツ! โจเนตสึ เดะ มุเนอะสึ! ?) (ตอนที่ 1 - 17, ตอนเลขคี่)
ร้องโดย T-Pistonz+KMC
  • "Kandou Kyouyuu" (ญี่ปุ่น感動共有! คันโด เคียวยู! ?) (ตอนที่ 2 -18, ตอนเลขคู่)
ร้องโดย T-Pistonz+KMC
  • "Shoshin wo KEEP ON!" (ญี่ปุ่น初心をKEEP ON! โชชิน โวะ KEEP ON! ?) (ตอนที่ 19 - 35)
ร้องโดย T-Pistonz+KMC
  • "Raimei! Blue Train!" (ญี่ปุ่น雷鳴!ブルートレーン ไรเมย์! บลูเทรน ?) (ตอนที่ 36 - ปัจจุบัน)
ร้องโดย T-Pistonz+KMC
เพลงเอนดิ้ง
อินาสึมะอีเลฟเวน GO
  • "Yappa Seishun" (ญี่ปุ่นやっぱ青春 ยัปปะเซย์ชุน ?) (ตอนที่ 1 - 18)
ร้องโดย โซระโนะ อาโออิ (ซายากะ คิตาฮาระ)
  • "Kanari Junjo" (ญี่ปุ่นかなり純情 คานาริจุนโจ ?) (ตอนที่ 19 - 34)
ร้องโดย โซระโนะ อาโออิ (ซายากะ คิตาฮาระ)
  • "HAJIKE-YO" (ตอนที่ 35 - 45)
ร้องโดย โซระโนะ อาโออิ (ซายากะ คิตาฮาระ)
  • "Ohayo! Shining Day" (ญี่ปุ่นおはよう!シャイニング・デイ โอฮาโยะ! ไชน์นิ่ง เดย์ ?) (ตอนที่ 46 - 47)
ร้องโดย T-Pistonz+KMC
อินาสึมะอีเลฟเวน GO โครโน สโตน
  • "Natsu ga Yattekuru" (ญี่ปุ่น夏がやってくる นัตสึงะยัตเตะคุรุ ?) (ตอนที่ 1 - 18)
ร้องโดย โซระโนะ อาโออิ (ซายากะ คิตาฮาระ)
  • "Te wo Tsunagou" (ญี่ปุ่น手をつなごう เทะ โวะ สึนะโก ?) (ตอนที่ 19 - 35)
ร้องโดย โซระโนะ อาโออิ (ซายากะ คิตาฮาระ), มัทสึคาเซะ เทนมะ (ยูกะ เทราซากิ) และ สึรุกิ เคียวสุเกะ (ทาคาชิ โอฮาระ)
  • "Bokutachi no Shiro" (ญี่ปุ่น僕たちの城 โบคุทาจิ โนะ ชิโระ ?) (ตอนที่ 36 - ปัจจุบัน)
ร้องโดย อินาสึมะอีเลฟเวน GO ออลสตาร์

วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

ดราก้อนบอล



ดราก้อนบอล (ญี่ปุ่น: ドラゴンボール Doragon Bōru, ทับศัพท์จาก Dragon Ball ?) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น ผลงานของโทริยาม่า อากิระ ลงพิมพ์ในนิตยสารโชเนนจัมป์ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 - พ.ศ. 2538 และรวมเป็นฉบับรวมเล่มได้ 42 เล่ม ในประเทศไทยเคยลงตีพิมพ์ใน ทาเล้นท์ และ ซีโร่ ในช่วงก่อนที่มีลิขสิทธิ์การ์ตูน และหลังจากนั้นได้ตีพิมพ์ในหนังสือการ์ตูนบูม ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด
เนื้อเรื่องของดราก้อนบอลเกี่ยวกับการผจญภัยของ ซุน โกคู ในการรวบรวมดราก้อนบอลให้ครบ 7 ลูก เพื่อขอพรหนึ่งข้อจากเทพเจ้ามังกร โดยระหว่างการเดินทางโกคูต้องพบกับเพื่อนฝูงและอุปสรรคต่างๆ
ลักษณะการดำเนินเรื่องช่วงแรก น่าจะเอามาจากเรื่องไซอิ๋ว ซึ่งกำหนดให้ซุนโกคู มีชื่อเดียวกับซุนหงอคง ให้มีปิศาจหมู อูลอน ลักษณะคล้าย ตือโป้ยก่าย
ดราก้อนบอลมีสร้างมาหลายภาคทั้งในฉบับมังงะและอะนิเมะ และยังมีการนำไปทำเป็นวิดีโอเกมหลายภาค และภาพยนตร์ ดราก้อนบอล นำแสดงโดย จัสติน แชตวิน, เอ็มมี รอสซัม และ โจว เหวินฟะ
และในปี พ.ศ. 2552 ดราก้อนบอล ได้ถูกนำมาสร้างใหม่ขึ้นอีกครั้งในชื่อว่า ดราก้อนบอล ไค โดยจะนำเนื้อหาของภาค ดราก้อนบอล Z มาสร้างใหม่ในระบบ High Definition Television (โทรทัศน์ความละเอียดสูง) เนื้อหาจะถูกตัดต่อใหม่ ให้กระชับฉับไวขึ้น เสียงประกอบ และ ดนตรี จะแต่งขึ้นมาใหม่ทั้งหมดให้เหมาะกับยุคนี้ แต่ยังคงใช้นักพากย์เดิม และจะเริ่มออกอากาศในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2552 เวลา 09.00 น. (ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น) ทางช่อง ฟูจิทีวี
ในฉบับหนังสือการ์ตูนนั้น ได้ใช้ชื่อ ดราก้อนบอล ตลอดทั้งเรื่อง แต่ฉบับภาพยนตร์การ์ตูนได้ใช้ชื่อแตกต่างกันดังนี้
  • ดราก้อนบอล (ภาคแรก) (Dragon Ball) (ค.ศ.1986-1989) ดำเนินเรื่องตามฉบับหนังสือการ์ตูน นับตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงการแต่งงานของโกคู
  • ดราก้อนบอล Z (Dragon Ball Z) ดำเนินเรื่องตามฉบับหนังสือการ์ตูนต่อจนจบเล่ม 42 ในภาคจอมมารบู สำหรับภาคแอนิเมชั่น ดราก้อนบอล Z ได้ถูกแบ่ง ออกเป็น 16 sagas
1. Saiyan Saga (ค.ศ.1989) การต่อสู้กับชาวไซย่า
2. Namek Saga (ค.ศ.1990) ตามหา ดราก้อนบอลของชาวนาเม็ก เพื่อชุบชีวิตให้กับพิคโคโล่ หยำฉา เท็นชินฮัง และเจาสึ
3. Ginyu Saga (ค.ศ.1990) ช่วงที่หน่วยรบพิเศษกินิว ปรากฏตัว
4. Frieza Saga (ค.ศ.1991) การต่อสู้สุดมัน กับเจ้าแห่งจักรวาลอย่าง ฟรีสเซอร์
5. Garlic Junior Saga (ค.ศ.1991) การต่อสู้กับ Garlic Junior ปรากฏตัวครั้งแรกใน Dragonball Z The Movie 1 : The Dead Zone แต่ใน แอนิเมชัน มาในช่วงที่ โกคู ยังไม่กลับจากการต่อสู้กับฟรีสเซอร์ และ โกฮังเป็นคนส่ง Garlic Junior กลับไปยัง Dead Zone
6. Trunk Saga (ค.ศ.1991-1992) หนุ่มที่มาจากอนาคต เป็นลูกชายของ เบจิต้า และ บลูม่า มาเพื่อแจ้งข่าวเรื่อง มนุษย์ดัดแปลง แก่พวก โกคู
7. Android Saga (ค.ศ.1992) มนุษย์ดัดแปลง ออกอาละวาดโลกมนุษย์ เพื่อที่ต้องการ ฆ่า ซุน โกคู ตามคำสั่งของ ดร.เกโร่ (หมายเลข 20) มีทั้งหมด 5 ตัว หมายเลข 16 17 18 19 20
8. Imperfect Cell Saga (ค.ศ.1992) มนุษย์ดัดแปลงหมายเลข 21 หรือ เรียกอีกชื่อว่า เซลล์ เซลล์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างโดยคอมพิวเตอร์ของ ดร.เกโร่ เพื่อฆ่า ซุน โกคู เซลล์จะมีร่างสมบูรณ์ได้นั้น ต้องดูดกลืน หมายเลข 17 และ 18
9. Perfect Cell Saga (ค.ศ.1992-1993) ร่างสมบูรณ์ของเซลล์ ได้เสร็จสมบูรณ์จนไม่อาจมีใครต้านทานได้ (เบจิต้า กับ ทรังคซ์)
10.Cell Games Saga (ค.ศ.1993) เป็นสมัยที่เป็นจุดจบของเซลล์ โดยมี ซุน โกฮัง เป็นผู้ทำลาย
11.Great Saiyan Man Saga (ค.ศ.1993) โกฮัง ได้เข้า ร.ร. ที่เมือง ซาตาน ซิตี้ และเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรม ภายใต้นามว่า เกรท ไซย่า แมน
12.World Tournament Saga (ค.ศ.1993) เป็นสมัยที่ โกคู ซึ่งตายในสมัย Cell Games Saga ได้กลับลงมายังโลกมนุษย์ 1 วัน เพื่อมาประลองศึกชิงเจ้ายุทธภพ
13.Babidi Saga (ค.ศ.1993-1994) พ่อมดลูกชายของพ่อมดบิบิดี้ ผู้สร้างจอมมารบู มีสมุนเอกชื่อ ดาบูร่า บาบีดี้ต้องการปลดผนึกจอมมารบูเพื่อทำลายโลก
14.Majin Buu Saga (ค.ศ.1994) จอมมารบูได้ออกจากไข่ผนึก เพราะการต่อสู้ของ โกคู กับ เบจิต้า ในระดับพลังที่เหนือกว่า ซุเปอร์ไซย่า
15.Fusion Saga (ค.ศ.1994-1995) สมัยที่เกิดการรวมร่าง ให้กำเนิดยอดนักรบ เพื่อปราบจอมมารบู มี 2 คน 1.Gotenks หรือ โกเท็นคูส เกิดจากการ ฟิวชั่นระหว่าง โกเท็น กับ ทรังคซ์ 2. Vegeto หรือ เบจีโต้ เกิดจากการ ใส่ต่างหู โปตาร่า ระหว่าง โกคู กับ เบจิต้า
16.Kid Buu Saga (ค.ศ.1995-1996) เป็นสมัยสุดท้ายของดราก้อนบอล z สมัยนี้เป็นการต่อสู้กับ จอมมารบู ตัวแรกสุดที่พ่อมดบิบิดี้ เป็นคนสร้าง และก็พระเอกของเรา ซุน โกคู เป็นผู้ปราบในที่สุด สถานที่ต่อสู้คือ ดาวมหาเทพ - Supreme Kai's Planet
  • ดราก้อนบอล GT (Dragon Ball GT) (ค.ศ.1996-1997) ดำเนินเรื่องต่อจากภาค Z แต่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาสำหรับแอนิเมชันโดยเฉพาะ ไม่เกี่ยวข้องกับฉบับหนังสือการ์ตูน
17.Go Go!! Goku (ค.ศ.2007) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของโกคู ก่อนที่จะพบกับบลูม
ตัวละคร

โกคู
ดูบทความหลักที่ ซุน โกคู
โกคู (ญี่ปุ่น: 孫悟空 Son Gokū ?) เป็นพระเอกของเรื่องเป็นชาวไซย่าที่เก่งที่สุด มีพ่อชื่อบาร์ดั้ก เขาเป็นชาวไซย่าที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า คาคาล็อต แต่ที่ชื่อโกคูเพราะปู่ตั้งชื่อให้ โกคูได้ช่วยปกป้องโลกเอาไว้หลายครั้งแล้วจากการทำลายโลกของฝ่ายร้าย เช่นราดีซ นัปปะ ฟรีซเซอร์ กีนิว มนุษย์แปลง เซล บู โกคูชอบกินข้าวในปริมาณมาก และจะหิวบ่อย เป็นคนที่อารมณ์ดีไม่ชอบทะเลาะ ต่างกับเบจิต้ามาก และโกคูได้ไปเรียนฝึกวิชากับผู้เฒ่าเต่าเป็นลูกศิษย์คนที่ 3 ต่อจาก ปู่ซุนโกฮัง และ ท่านราชาปีศาจวัว หรือ งิวมาโอ
ในภาค Dragon Ball GT โกคูสามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าขั้นที่ 4 ได้ รวมทั้งรวมร่างกับเบจิตาและต่อสู้จนถึงที่สุดกับเทพเจ้ามังกร แต่สุดท้ายโกคูก็พลาดท่าและกลายร่างกลับเป็นเด็ก แต่โกคูก็สามารถปราบกับเทพเจ้ามังกรได้สำเร็จเป็นเพราะว่าเขาใช้พลังบอลเกงกิ ซึ่งขอรับพลังเพิ่มเติมมาจากประชากรทั้งจักรวาล เมื่อเทพมังกรที่ชั่วร้ายได้ตายไป ดราก้อนบอลก็กลายสภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิม จากนั้นเทพเจ้ามังกรก็ออกมาโดยที่ไม่ได้มีใครอัญเชิญ เทพมังกรรักษาโกคูให้หาย และกล่าวว่าดราก้อนบอลนั้นถูกใช้บ่อยมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถคลายพลังงานด้านลบได้ทัน เทพเจ้ามังกรจึงต้องออกไปจากโลกนี้เป็นเวลา 100 ปี เพื่อไม่ให้ถูกรบกวนอีก ซึ่งโกคูก็ได้ขอพรทั้งสุดท้ายให้ชุบชีวิตผู้คนที่ถูกฆ่าตายไป ซึ่งเทพเจ้ามังกรก็ยินดีทำตาม จากนั้นก็ชวนให้โกคูออกเดินทางไปด้วยกัน โกคูก็กระโดดขี่หลังเทพเจ้ามังกรจากไป โดยระหว่างนั้นก็ขอแวะบ้านผู้เฒ่าเต่าเพื่อบอกลา และไปเยี่ยมพิโคโล่ที่นรกด้วย จากนั้นดราก้อนบอลทั้ง 7 ก็ได้เข้าไปอยู่ในตัวของโกคู
เบจิต้า
เบจิต้า(ญี่ปุ่น: ベジータ; อังกฤษ: Vegeta) หรือ เบจีต้า เป็นเจ้าชายแห่งดาวเบจีต้า เพราะเป็นลูกราชาแห่งดาวเบจีต้า เบจีต้าได้รอดจากการถูกทำลายดาวของเจ้าวาล ฟรีซเซอร์เพราะฟรีซเซอร์ต้องการเก็บไว้ใช้งานเพื่อหวังใช้เป็นกำลังในการครอบครองจักรวาล แต่ด้วยนิสัยที่ยิ่งทรนงในตัวเองสูงจึงได้หักหลังต่อฟรีซเซอร์ในภายหลัง สู้กับโกคูครั้งแรกที่โลก สู้จน แพ้ แพ้ฟรีซเซอร์และตายสุดท้าย ได้เป็นพวกโกคู มีลูกกับ บูลม่า ชื่อ ทรั้งซ์ และลูกสาวอีกคน ในภาค Z ตอนจอมมารบู ได้ถูกเบบี้ เข้าชิงร่าง และต่อสู้กับ โกคู แต่ก็แพ้ต่อร่าง ซูเปอร์ไซย่า 4 ในภาค GT




พิคโกโร่
ดูบทความหลักที่ พิคโกโร่
เกิดมาจากไข่ของราชาปีศาจพิคโกโร่(ผู้เป็นพ่อ)ตอนที่ราชาปีศาจพิโกโร่สู้กับ โกคู เมื่อใกล้จะแพ้ก็ได้คายไข่ออกมา เป็นมาร จูเนียร์ (พิคโกโร่)เมื่อโตขึ้นก็ได้ไปต่อสู้กับ โกคู ที่ศึกชิงเจ้ายุธภพ พิคโกโร่มีชีวิตเดียวกับพระเจ้าหากคนใดคนหนึ่งตายอีกคนก็จะต้องตายด้วย รวมทั้งถ้าพระเจ้าตายดรากอนบอลก็จะหายไปด้วย แต่ต่อมาในภาคของมนุษย์ดัดแปลงหมายเลข 16,17,18 พิคโกโร่ และพระเจ้าได้รวมร่างกันอีกครั้งโดยหวังเพิ่มพลังเพื่อเอาชนะมนุษย์ดัดแปลง พิคโกโร่ เองยังเป็นอาจารย์ผู้สอนวิชาการต่อสู้ให้กับ ซุนโกฮัง ลูกชายของ โงกุน ในวัยเด็กอีกด้วย และในภาค z ก็เป็นอาจารย์สอนฟิวชั่นให้กับโกเท็นลูกชายคนที่สองของโกคู กับทรังคซ์ลูกชายคนแรกของบลูม่ากับเบจิต้า เพื่อเพิ่มพลังไปสู้กับจอมมารบู



ฟรีเซอร์
ดูบทความหลักที่ ฟรีเซอร์
ฟรีเซอร์ (ญี่ปุ่น: フリーザ; อังกฤษ: Freeza) เป็นสัตว์ประหลาดที่ระเบิดดาวเบจิต้าเพราะกลัวว่าจะมีชาวไซย่าที่สามารถแปลงร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่ามากำจัดตน เป็นผู้มีความทะเยอทะยานอยากจะเป็นอมตะและครอบครองจักรวาล มีนิสัยชอบสะสมลูกน้องที่เก่งๆ และเป็นหัวหน้าเหล่าวายร้ายที่มีพลังร้ายกาจสุดจะหยั่งถึง ทั้งยังมีความสามารถในการแปลงร่างเพื่อเพิ่มพลังยุทธได้ถึง3ครั้ง เพราะฟรีเซอร์จะต้องการดราก้อนบอลเพื่อเอามาครอบครองจักรวาล แต่สุดท้ายก็ต้องมาพบกับซุนโงกุนที่แปลงร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่าจัดการลงที่ดาวนาแมค บ้านเกิดของพิคโกโร่(แต่โงกุนเล่นงานฟรีซเซอร์แค่บาดเจ็บ ไม่ได้จัดการทิ้ง) เมื่อกลับไปพักรักษาตัวจนหายดีก็ได้เดินทางมาที่โลกมนุษย์พร้อมกับพ่อ(ราชาโกลด้า)เพื่อที่จะมาแก้แค้นกับโงกุน แต่โงกุนยังเดินทางไม่ถึงโลก(เพราะยานอวกาศของโงกุนเดินทางช้ากว่า) เมื่อฟรีเซอร์มาถึงเขาก็เริ่มที่จะวางแผนยึดครองดาวโลกพร้อมกับตามหาโงกุน แต่เคราะห์ร้ายที่เขาต้องถูกทรังคซ์จัดการลงพร้อมกับพ่อของเขา



บลูม่า
ดูบทความหลักที่ บลูม่า
เป็นผู้หญิงคนแรกในเรื่องดราก้อนบอล เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดนี้ ลูกสาวเจ้าของบริษัทแคปซูล คอร์ปอเรชั่น และเป็นเพื่อนคนแรกของโงกุน ต้องการรวบรวมดราก้อนบอลจึงสร้างดราก้อนเรดาร์เพื่อค้นหาดราก้อนบอล และไปพบกับโงกุนเข้าในภาคแรก ตอนแรกเธอคิดจะใช้โงกุนเป็นเครืองมือให้หาดราก้อนบอลเจอแต่สุดท้ายพวกเขาก็เป็นเพื่อนกัน เป็นกำลังสำคัญในด้านสมองช่วยประดิษฐ์เครื่องมือต่างๆให้กับเหล่านักสู้เป็นแฟนกับหยำฉา แต่ตอนหลังเลิกกัน และมีลูกกับเบจิต้าชื่อทรังซ์

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

ความเป็นมาของดร.สลัมป์กับหนูน้องอาราเล่



โนริมากิ อาราเล่ (ญี่ปุ่น: 則巻アラレ Norimaki Arare ?) เป็นตัวละครในการ์ตูนเรื่อง ดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่ เป็นหุ่นยนต์ที่ดร. เซมเบ้ สร้างขึ้นมา ให้เป็นเด็กผู้หญิง ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแพนกวิน มีนิสัยร่าเริง และมีพลังอย่างมหาศาล ชื่ออาราเล่ตั้งมาจากชื่อขนมญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายขนมเซมเบะแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งเป็นนัยว่าเป็นลูกของ ดร.เซมเบ้ ส่วนคำว่า โนริมากิ แปลว่า "ห่อด้วยสาหร่าย"

เป็นหุ่นยนต์แอนดรอยด์ล้ำยุคที่ ดร.สลัมป์ สร้างขึ้น เนื่องจากสร้างหัวก่อน ทำให้อาราเล่เรียนรู้สิ่งต่างๆจากได้จากทีวีเท่านั้น การจ้องมองทีวีทั้งวันทั้งคืนเลยทำให้อาราเล่สายตาสั้นและต้องสวมแว่นตา และชอบทำตัวรุนแรงเลียนแบบรายการมวยปล้ำในทีวี ความสามารถพิเศษของอาราเล่ คือ พลังอันแข็งแกร่งและวิ่งเร็วเหมือนติดเทอร์โบ
อาราเล่ชอบพูดเป็นประจำเวลาทักทายกับทุกคน ดีจ้า และ คำอุทานของอาราเล่ สุดฮิต คือ "โอ๊ะ โยะ โย๋"

อาราเล่เป็นเด็กมีนิสัยร่าเริง แต่ด้วยเธอที่เป็นหุ่นยนต์นั้น ไม่ว่าเวลาเธอจะทำอะไร มักทำให้หมู่บ้านเพนกวินเดือดร้อนเสมอ ตั้งแต่สัตว์ไปถึงคน อาราเล่ชอบเล่นอุนจิ โดยการเอาไม้ไปจิ้มอุนจิแล้วพูดออกมาว่า "จิ้มๆๆๆ"

อาราเล่เป็นการ์ตูนโด่งดังแห่งยุค 80 โนริมากิ อาราเล่ เป็นตัวละครในการ์ตูนเรื่องด๊อกเตอร์สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่ คนทั่วไปคิดว่าอาราเล่เป็นเด็กหญิงจอมแก่น ไร้เดียงสา แต่จริงๆ เป็นหุ่นยนต์ที่มีพลังมหาศาล

ดร.เซนเบ้สร้างอาราเล่ หุ่นยนต์แอนดรอยด์ล้ำยุคเป็นทั้งลูกสาวและน้องสาวแล้วแต่ว่าจะพูดด้วยอารมณ์ไหน


การสร้างโดยเริ่มจากส่วนหัวก่อน ทำให้อาราเล่เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้จากทีวี เพราะจ้องมองทีวีทั้งวันทั้งคืน ซึ่งมีส่วนทำให้สายตาสั้นและต้องสวมแว่นตา นอกจากนี้ยังชอบทำตัวรุนแรงเลียนแบบรายการมวยปล้ำในทีวี (เนื้อหาตรงนี้สะท้อนถึงปัญหาของเด็กในยุคที่พ่อแม่เลี้ยงด้วยทีวีด้วยเช่นกัน)

ดร.สลัมป์และหนูน้อยอาราเล่แจ้งเกิดเมื่อปี 2524 โดยเป็น ผลงานของ อากิระ โทริยาม่า ช่วงแรกที่ออกอากาศทางทีวี ผู้ให้เสียงพากย์อาราเล่คือ มามิ โคยามะ ส่วนคนต่อมาชื่อ ทาเอโกะ คาวะตะ
ตอนแรกในช่วงที่เป็นซีรีส์ทางทีวี อาราเล่ มีผมสีน้ำเงินม่วง กระทั่งมาเป็นการ์ตูนอานิเมะ ในปี 2540 สีผมเปลี่ยนมาเป็นน้ำตาลเข้ม
นอกจากดร.เซนเบ้ และอาราเล่แล้ว ครอบครัวโนริมากิค่อยๆ ขยายสมาชิกตามเนื้อเรื่องว่า ดร.เซนเบ้และอาราเล่ไปเจอไข่ฟองหนึ่งในช่วงที่ท่องเที่ยวไปในอดีต ไข่ฟองนี้ฟักตัวออกมาเป็นสิ่งมีชีวิตหน้าคนแต่มีปีก ได้ชื่อว่า กั๊ดซิลลา หรือ กั๊ตจัง นอกจากนี้ดร.เซนเบ้ยังแต่งงานกับสาวในฝัน ชื่อ มิโดริ ยามาบูกิ และมีลูกชื่อ เทอร์โบ อีกด้วย
เรื่องราวของดร.สลัมป์ที่เป็นการ์ตูนมังงะ ใช้โครงเรื่องตามที่เห็นในทีวี เน้นไปที่การผจญภัยสนุกสนานและความห้าวแบบไร้เดียงสาของอาราเล่ นอกจากนี้ ยังมีตอนที่เชื่อมโยงกับการ์ตูนดราก้อนบอลด้วย